อานิสงส์การบูชาเจดีย์ด้วยดอกไม้ ๘ ดอก
“ข้าพเจ้ามีใจเลื่อมใส ยกดอกไม้ ๘ ดอก ขึ้นบูชาพระสถูปของพระกัสสปพุทธเจ้าด้วยมือของตนเอง ด้วยอานุภาพแห่งผลบุญในครั้งนั้น ทำให้เป็นผู้ที่มีวรรณะงดงามเช่นนี้”
อานิสงส์การบูชาด้วยดอกมะลิ
มนุษย์เท่านั้นที่เกิดมาเพื่อสั่งสมบุญสัตว์ที่เหลือส่วนใหญ่จะเกิดมาเพื่อเสวยผลกรรมที่เคยทำไว้ในอดีต ถึงจะเป็นสัตว์นรกเปรต อสุรกาย หรือสัตว์เดรัจฉาน ก็ต้องชดใช้ ผลกรรมที่ทำไว้
สัจจบารมี ยอมตายไม่ยอมคด
"ท่านพึงบำเพ็ญสัจจบารมีให้เต็มเปี่ยม อย่าได้พูดเท็จทั้งที่รู้ตัวอยู่ด้วยมุ่งทรัพย์ เป็นต้น ดาวประกายพรึกในทุกฤดูกาล ไม่โคจรไปในทางอื่น โครจรเฉพาะในทางของตนเท่านั้น ฉันใดแม้ท่านไม่ละสัจจะ ไม่ทำการพูดเท็จ ก็จักได้เป็นพระพุทธเจ้า ฉันนั้น "
อานิสงส์ถวายดอกบัวและธงชัย
การบูชาบุคคลผู้ควรบูชาเป็นอุดมมงคลสำหรับชีวิต เป็นทางมาแห่งมหากุศลอันยิ่งใหญ่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันตสาวกล้วนเป็นบุคคลผู้บังเกิดขึ้น ได้ยากในโลก ...
มิตรแท้ในปรโลก
"ความสุขในโลกนี้และโลกหน้าย่อมเกิดกับ ผู้ทำบุญไว้ ผู้ปรารถนาเป็นสหายแห่งเทพ พึงทำบุญกุศลไว้ให้มาก เพราะผู้ทำบุญเป็นนิตย์ย่อม บันเทิงใจอยู่ในสวรรค์"
นักสร้างบารมีกับพันธกิจยอยกพระพุทธศาสนา
ยอดนักสร้างบามีผู้มีหัวใจโชนนิรันดร์ทุกท่าน เมื่อเทียบเวลาในมนุษยโลกกับดุสิตบุรีช่างเป็นช่วงเวลาที่สั้นเหลือเกิน เวลา ๑ ปีของเรานั้น เท่ากับ ๖ ชั่วโมงในดุสิตบุรี เราสละทิพยสมบัติมาไม่กี่ชั่วโมง เพื่อเอาบารมีกลับไปให้ได้มากที่สุด
ขันติบารมี ตบะธรรมนำสู่นิพพาน
"ท่านจงอดทนต่อคำยกย่อง และคำดูหมิ่นทั้งปวง เปรียบเหมือน.. แผ่นดินอดทนต่อสิ่งที่เขาทิ้งลงทุกอย่าง ทั้งสะอาดและไม่สะอาด ไม่แสดงความยินดียินร้าย บำเพ้ญขันติบารมีก้จักบรรลุสัมโพธิญาณได้"
อานิสงส์ร่วมสร้างมหาพุทธเจดีย์
คนไม่มีบุญจะมีศิลปะหรือไม่มีศิลปะก็ตาม จะสามารถรวบรวมทรัพย์ไว้เป็นจำนวนมาก แต่คนมีบุญเท่านั้นย่อมได้ใช้สอยทรัพย์เหล่านั้น
อานิสงส์บูชาพระพุทธสรีระ
ความเลื่อมใสศรัทธาที่ตั้งมั่นดีแล้วในบุคคลผู้เลิศเปรียบเสมือนบันไดก้าวแรกและเป็นก้าวสำคัญที่จะนำเราก้าวไปสู่ความเต็มเปี่ยมของชีวิต ขณะยังอยู่ในโลกมนุษย์ก็จะพรั่งพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติ
บวช..คำตอบสุดท้ายของชีวิตในสังสารวัฏ
ท่านพระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องขวานับเป็นตัวอย่างที่น่าอัศจรรย์ของผู้เห็นภัยในสังสารวัฏนอกจากจะละสมบัติมากถึง ๘๗ โกฏิออกบวชแล้วยังชวนน้องสาว ๓ คน คือ นางจาลา นางอุปจาลา นางสีสุปจาลาและน้องชายอีก ๒ คน คือ จุนทะ อุปเสนะ ให้บวชทั้งหมด